ภาพถ่ายดาวเทียม METEO-7 เวลาบ่ายวันศุกร์ (22 ต.ค.) เผยให้เห็นนัยน์ตาเล็กแหลม น่าสะพรึงกลัวของไซโคลนกิริ ที่เร่งความเร็วเป็นพายุระดับ 5 "ซูเปอร์ไซโคลน" ขณะเคลื่อนเข้าสู่เขตอุตสาหกรรมก๊าซนอกชายฝั่งใหญ่ที่สุดของพม่าในบ่ายวันศุกร์ (22 ต.ค.) ยังไม่ทราบชะตากรรมของผู้คนที่อยู่บนทางผ่าน ในขณะนี้

     
        ไซโคลนกิริ (Giri) ได้ทวีความเร็วขึ้นเป็นระดับ 5 (Category 5) ในวันศุกร์ (22 ต.ค.) นี้ ท่ามกลางเสียงเตือนจากหลายฝ่ายให้ระวังคลื่นสูงถาโถมขึ้นกวาดสรรพสิ่งใกล้ชายฝั่งให้ตกทะเล แบบเดียวกับพายุนาร์กิส (Nargis) ที่กวาดผู้คนนับหมื่นหายไปจากทั้งเมืองในชั่วพริบตาในต้นเดือน พ.ค.2551

     
       กิริทวีความแรงขึ้นอย่างรวดเร็วและผิดคาด แรงกว่าพายุนาร์กิส สวนทางคำพยากรณ์ของเจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาพม่าในวันศุกร์ที่คาดว่าพายุในทะเลเบงกอลลูกล่าสุดนี้ จะไม่รุนแรงท่ากับไซโคลนที่เคยพัดทำล้ายล้างเขตที่รายปากแม่น้ำอิรวดีจนเรียบราบ เมื่อกว่า 2 ปีก่อน
     
       ภาพถ่ายดาวเทียมของหอสังเกตการณ์นาซ่า สหรัฐฯ ที่ถ่ายเวลาบ่ายวันศุกร์ ได้เผยให้เห็น "นัยน์ตาแห่งพายุ" ขณะที่ไซโคลนกิริ กำลังปั่นตัวเองเหนือชายฝั่งแห่งรัฐยะไข่ (ระไค หรือ อาระกัน) ทางภาคตะวันตกของพม่า ในจุดระหว่างเมืองจ๊อกเปียว (Kyaukpyu) เมืองท่าอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ กับเมืองสิตตเว (สิตต่วย) เมืองเอกของรัฐ
     
       เป็นช่วงที่กิริปั่นความเร็วขึ้นเป็นไซโคลนระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับความรุนแรงสูงสุดของพายุในเขตร้อน
     
       ภาพถ่ายดาวเทียมของกองทัพเรือสหรัฐ ที่เผยแพร่เวลา 8.00 น.วันเสาร์ (23 ต.ค.) นี้ แสดงให้เห็นไซโคลนกิริ หมุนคว้างอยู่เหนือแผนดินใหญ่ ย่านที่เป็นภูเขาสูงของรัฐยะไข่ โดยอ่อนกำลังลงเป็นระดับ 3 และ กำลังทำให้เกิดฝนหนักครอบคลุมอาณาบริเวณกว้างขวาง ส่งไอน้ำขึ้นคละคลุ้งไปทั่ว
     
       เพียง 3 วันนับแต่ก่อตัวเป็นพายุเล็กๆ นอกชายฝังพม่า กิริเร่งความเร็วขึ้นเป็นระดับ 5 ภายในชั่วข้ามวัน
     
       ช่วงที่พัดเข้าถึงชายฝั่งเวลา 13.25 น.วันศุกร์ มีความเร็วลมถึง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (140 ไมล์/ชม.) เป็นพายุระดับ 4 ทำให้สำนักพยากรณ์ต่างๆ ออกเตือนทางการทหารให้ระวังภัยอันตรายที่จะเกิดจากพายุ รวมทั้งคลื่นสูง 6-10 เมตร ซึ่งเคลื่อนเข้าฝั่งอย่างรวดเร็วตลอดแนวฝั่งทะเลของยะไข่

ภาพถ่ายดาวเทียมโดยหอสังเกตุการณ์ (Earth Observatory) องค์การนาซ่า เผยให้เห็นนัยน์ตาเล็กแหลม น่าสะพรึงกลัวของไซโคลนกิริ ที่เร่งความเร็วเป็นพายุระดับ 5 "ซูเปอร์ไซโคลน" ขณะเคลื่อนเข้าสู่เขตอุตสาหกรรมก๊าซนอกชายฝั่งใหญ่ที่สุดของพม่าในบ่ายวันศุกร์ (22 ต.ค.) ยังไม่ทราบชะตากรรมของผู้คนที่อยู่บนทางผ่าน ในขณะนี้

       พายุกิริทวีความแข็งแกร่งขึ้นอย่าง "รวดเร็วและแรงมาก" หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ความเร็วได้ทวีขึ้นเป็น 135 น็อต (250 กม./ชม.) ทำให้กิริกลายเป็นไซโคลนระดับ 5 ศูนย์เตือนภัยไต้ฝุ่นกองทัพเรือสหรัฐกล่าว ในเวลาค่ำวันศุกร์
     
       ด้วยความสูงขนาดนี้และด้วยความเร็วจัด เกลียวคลื่นสามารถกวาดบ้านเรือนราษฎร เรือประมงและผู้คนลงทะเลไปได้ เช่นที่เคยเกิดขึ้นเมื่อไซโคลนนาร์กิส นำคลื่นยักษ์กวาดคนทั้งเมืองในเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดีที่อยู่ใต้ลงไปหลายร้อย กม.
     
       กิริเร็วและแรงยิ่งกว่าไซโคลนนาร์กิส ซึ่งมีความเร็วลม 115 น็อต (210 กม./ชม.) ในช่วงแรงที่สุด พัดเข้าสู่เขตที่ราบลุ่มที่มีประชากรหนาแน่น ในวันที่ 2-3 พ.ค.2551 ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100,000 คน ส่วนกิริแม้จะมีความรุนแรงกว่านาร์กิส แต่ก็พัดเข้าสู้เขตทีมีประชากรไม่หนาแน่นของประเทศ
     
       อย่างไรก็ตามจ๊อกเปียวกับสิตตเว เป็นเมืองท่าสำคัญ และ เป็นแหล่งอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติ เป็นเขตสำรวจพลังงานใหญ่ที่สุดนอกชายฝั่งพม่าในทะเลเบงกอล แท่นเจาะสำรวจหลายแห่งอยู่ที่นั่น พร้อมคนงานหลายร้อยคน และ พม่ากำลังเตรียมผลิตก๊าซจากแปลง A-1 กับ A-3 เพื่อส่งจำหน่ายให้แก่จีน
     
       ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับความเสียหายอย่างเป็นทางในขณะนี้
ภาพถ่ายดาวเทียมเวลาเช้าวันเสาร์ ซึ่งเป็นภาพล่าสุดจากสถานีวิจัยกองทัพเรือสหรัฐ เผยให้เห็นไซโคลนกิริอ่อนกำลังลง แต่ยังหมุนคว้างเป็นไซโคลนระดับ 3 ส่งฝนกระจายครอบคลุมอาณาบริเวณกว้างของรัฐระไค (Rakhine) รัฐสะกาย (Sagaing) กับเขตมัณฑะเลย์ ยังไม่ทราบชะตากรรมของผู้คนที่อยู่ข้างหลัง เมื่อกิริพัดขึ้นฝั่งขณะที่มีกำลังแรงสุดเป็นพายุระดับ 5

BY ASTVผู้จัดการออนไลน์ http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9530000149551